เรื่องที่ 1 เริ่มแรกเรียนรู้เรื่องบล็อก
บล็อก ( blog) เป็นคำรวมมาจากคำว่า
เว็บล็อก (weblog) เป็นรูปแบบเว็บไซต์ประเภทหนึ่ง
ซึ่งถูกเขียนขึ้นในลำดับที่เรียงตามเวลาในการเขียน
ซึ่งจะแสดงข้อมูลที่เขียนล่าสุดไว้แรกสุด บล็อกโดยปกติจะประกอบด้วย ข้อความ ภาพ
ลิงค์ ซึ่งบางครั้งจะรวมสื่อต่างๆ ไม่ว่า เพลง หรือวิดีโอในหลายรูปแบบได้
จุดที่แตกต่างของบล็อกกับเว็บไซต์โดยปกติคือ บล็อกจะเปิดให้ผู้เข้ามาอ่านข้อมูล
สามารถแสดงความคิดเห็นต่อท้ายข้อความที่เจ้าของบล็อกเป็นคนเขียน
ซึ่งทำให้ผู้เขียนสามารถได้ผลตอบกลับโดยทันที คำว่า "บล็อก"
ยังใช้เป็นคำกริยาได้ซึ่งหมายถึง การเขียนบล็อก
และนอกจากนี้ผู้ที่เขียนบล็อกเป็นอาชีพก็จะถูกเรียกว่า "บล็อกเกอร์"
สังคมบล็อก
สังคมบล็อก หมายถึง
พื้นที่บนอินเตอร์เน็ท เพื่อให้ผู้ที่ต้องการนำเสนอบทความ สามารถแบ่งบัน เรื่องราว
รูปภาพ รูปถ่าย อันส่งผลประโยชน์ แกผู้เข้ารับชม
อันนี้คือสิ่งที่จำกัดความหมายของสังคมบล็อก ตั้งเป้าหมายไว้ โดยผู้ใช้
สามารถที่จะหา ผลประโยชน์จาก บทความที่ตนเอง เป็นผู้นำเสนอ โดยอาจจะมีการ
นำเสนอโฆษณา พร้อมๆ กับการนำเสนอ บทความ แล้วแต่ความต้องการของผู้ใช้ อย่างอิสระ อนึ่ง การใช้งานระบบสังคมบล็อก
มีเนื้อหาของการนำเสนอ โดยจะต้องเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ ผู้นำเสนอ
ระหว่างผู้ใช้งานด้วยกัน ไม่อาจจะทำการสำเนา เอกสารดังกล่าวได้
เพียงแต่สามารถทำการลิงค์เชื่อมโยง เพื่อส่งผลโดยตรงต่อผู้ใช้งานทั่วไป
ให้สามารถใช้งานระบบได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด
ความเป็นมาของบล็อก
ในความเป็นจริงแล้วบล็อกมีมาในช่วงยุคต้นๆของการมีเว็บไซต์เลยทีเดียว(ช่วงประมาณปี
ค.ศ.1992) โดยบล็อกมีต้นตระกูลมาจากเว็บประเภทหนึ่งที่เรียกว่า What’s New
ซึ่งในยุคแรกขณะนั้นยังมีเว็บไซต์จำนวนไม่มากนัก
เจ้าหน้าที่ของสถาบันวิจัยนิวเคลียร์ภาคพื้นยุโรป (CERN) ได้เป็นผู้เริ่มสร้างเว็บสำหรับนำเสนอข่าวเกี่ยวกับวงการเว็บ
รวมถึงแจ้งข่าวสารเว็บไซต์ที่เกิดใหม่
โดยทำในลักษณะเป็นลิงค์ชี้ไปยังเว็บไซต์นั้นๆ และมีคำอธิบายว่ามันคืออะไร
มีอะไรน่าสนใจบ้าง จากนั้นก็มีผู้ทำ What’s New ในลักษณะต่างๆ
มากมาย จนถึงปี ค.ศ.1997 นายจอร์น
บาร์เกอร์ (Jorn Barger) เจ้าของเว็บไซต์ http://www.robotwisdom.com/ ซึ่งเป็นเว็บที่มีลักษณะเป็น
บล็อก อาจกล่าวได้ว่าเป็นบล็อกรุ่นแรกๆ ก็ได้คิดคำว่า weblog ขึ้นมา
ต่อมาในปี ค.ศ.1999 ปีเตอร์ เมอร์โฮลซ์ (Peter Merholz) เจ้าของ http://www.peterme.com/ ประกาศว่า
ต่อไปเขาจะอ่านคำว่า weblog ว่า “วี
- บล็อก” และจะเรียกสั้น ๆ ว่า blog “บล็อก” เนื่องจากในยุคสมัยนั้น
ยังมีคนใช้บล็อกจำนวนไม่มากนัก และความคิดนี้ ถือเป็นความคิดที่แปลกใหม่น่าสนใจ
นับตั้งแต่นั้นมา คำว่า บล็อก จึงกลายเป็นคำที่ได้รับความนิยมไปทั่ว
และถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย แม้ว่า weblog นั้นดูจะเป็นภาษาทางการมากกว่าคำว่า
blog แต่ก็ยังมีผู้เรียกขาน weblog อยู่เช่นกัน
ใน ปี ค.ศ.1999 เริ่มมีบริการช่วยสร้างบล็อกฟรี
ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ได้แก่ www.blogger.com
(เวทีที่ท่านกำลังอ่าน) และ www.pitas.com
ทั้งสองเว็บไซต์เปิดให้บริการแก่สมาชิก ซึ่งจะให้เครื่องมือในการ สร้างบล็อก
โดยจะใช้งานเครื่องมือเหล่านี้ผ่านทางเว็บบราวเซอร์
หากใครที่มีพื้นที่จัดเก็บเว็บไซต์อยู่แล้ว
ก็สามารถสร้างบล็อกแล้วนำบล็อกไปเก็บไว้ในพื้นที่จัดเก็บเว็บไซต์ของตนเองได้เลย
หรือถ้าไม่มีพื้นที่เก็บเว็บไซต์ ก็สามารถฝากบล็อกไว้กับผู้ให้บริการได้อีกด้วย
เมื่อมีเครื่องมือลักษณะนี้มาให้บริการ ทำให้การสร้างบล็อกเป็นเรื่องที่ง่ายมาก ๆ
ผู้สร้างบล็อกเพียงแค่ใส่ข้อมูลอย่างเดียวและไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องการสร้างเว็บก็ได้
เลยทำให้วงการบล็อกเป็นที่สนใจ และทำให้มีบล็อกใหม่ ๆ
เนื้อหาที่หลากหลายเกิดขึ้นมากมาย
โดยปกติการสร้างบล็อก
สามารถสร้างได้ง่ายผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ของผู้ให้บริการสร้าง Blog ฟรี ซึ่งจะมีเครื่องมือสนับสนุนให้ผู้สร้างเนื้อหาสามารถสร้างสรรค์งานเขียนได้อย่างง่ายและรวดเร็ว
ปัจจุบันมีที่นิยมหลายแห่ง อาทิ http://www.blogger.com,
http://www.wordpress.com, เป็นต้น
สำหรับบ้านเราก็นิยมสร้างบล็อกเป็นเครื่องมือช่วยในการประกอบธุรกิจ การค้าผ่านอิเล็กทรอนิกส์ การแลกเปลี่ยนความรู้ออนไลน์ การใช้เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลข่าวสาร อาทิ http://bloggang.com http://www.oknation.net/blog/index.php และ http://gotoknow.org
สำหรับบ้านเราก็นิยมสร้างบล็อกเป็นเครื่องมือช่วยในการประกอบธุรกิจ การค้าผ่านอิเล็กทรอนิกส์ การแลกเปลี่ยนความรู้ออนไลน์ การใช้เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลข่าวสาร อาทิ http://bloggang.com http://www.oknation.net/blog/index.php และ http://gotoknow.org
-----------------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น